ประวัติโรงเรียนสามัคคีธรรมอิสลาม (โดยย่อ)
ในอดีตการศึกษาอัลกุรอาน และวิชาความรู้ของเยาวชนในหมู่บ้านปากลัดนั้นนิยมเรียนกันตามบ้านเสียส่วนใหญ่ อาทิ ที่บ้านแชบะห์ บ้านแชยา บ้านแชท่านครูเจ๊ะนะ บ้านแชแม บ้านแชฉ่ำ เป็นต้น ต่อมาคณะกรรมมัสยิดยุคนั้นได้เห็นพ้องกันว่าให้ซื้อที่ดินฝั่งตรงข้ามของมัสยิด ซึ่งเป็นที่ของอัลมัรฮูมแชชน ฮัลมัรฮูมะห์โต๊ะวังตี และอัลมัรฮูมะห์เจ๊ม๊ะห์ และได้จัดทำการขายเพื่อทำวากัฟในราคาตารางวาละ 100 บาท โดยทำการหักโอนใส่ชื่อกรรมการในยุคนั้นไว้.
หลังจากนั้น เวลาประมาณ 8 ปี ฮัลมัรฮูมแชบก อัลมัรฮูมฮัจยีซาฟีอี อัลมัรฮูมดอยา บิดาของอัลมัรฮูมฮัจยีฮูเซ็น สมานแก้ว ตลอดจนชาวปากลัดอีกหลายท่าน ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเป็นโรงเรียนอาคารไม้ 2 ชั้น มีชื่อเป็นภาษาอาหรับว่า อะดีก่อตุ้ลมะอะรีฟ โดยใช้ชื่อว่า สามัคคีธรรมอิสลาม โดยมีครูอัชอารีย์ แสงวิมาน เป็นครูสอนคนแรก และครูดีน แสงมาน ต่อมาเมื่อมีสมาคมคุรุสัมพันธ์ โดยอยู่ในหน่วยสอบที่ 5 เมื่อเด็กในหมู่บ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คณะกรรมการโรงเรียนจึงได้จัดครูเพิ่ม พร้อมกับมีการเปลี่ยนแปลงครูที่ทำการสอน อันประกอบด้วย ครูสุอิ๊บ แสงวิมาน ครูอีซา แสงมาน ครูเสรี สร้อยระยับ ครูอาอีซะห์ ระดิ่งหิน ครูมารีนา อดุลย์วิจิตร ฯลฯ
ตลอดระยะเวลาที่ทางโรงเรียนสามัคคีธรรมอิสลามได้ส่งเด็กร่วมสอบกับสมาคมคุรุสัมพันธ์ โรงเรียนสามัคคีธรรมอิสลามเคยติดอันดับ 1,2,3 ของหน่วยสอบที่ 5 หลายครั้ง และเคยส่งเด็กเข้าแข่งขันตอบปัญหาฟัรดูอัยน์ หลายต่อหลายแห่ง
ยิ่งไปกว่านั้น โรงเรียนสามัคคีธรรมอิสลาม(ปากลัด) ยังเคยติดอันดับสำคัญของสมาคมคุรุสัมพันธ์อีกด้วย เยาวชนปากลัดจากอดีตถึงปัจจุปันที่ได้รับความรู้ทางศาสนาจากสถานศึกษาแห่งนี้มีจำนวนมากกว่า 5,000 คน รวมทั้งที่ได้ผ่านการสอบ และไม่ได้ผ่านการสอบ คือ จบอัลกุรอ่านอย่างเดียว ต่อมาประมาณปี 2523 จากรงเรียนหลังไม้อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม จึงมีผู้ใจบุญ คือคุณสมรรถ วงค์พานิช ได้สร้างอาคารโรงเรียนหลังใหม่ขึ้นเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น โดยชั้นล่างเปิดโล่ง ซึ่งในขณะนั้นโรงเรียนสามัคคีธรรมอิสลาม มีครูผู้สอน 4 ท่าน ดำเนินการสอนโดย ครูอีซา แสงมาน เป็นครูใหญ่ ครูรอฟิก โก๊ะเจริญ ครูอับดุลอาซีด แสงมานและครูรอฟิก มะกา ต่อมาโรงเรียนได้ทำการขออนุญาต จดทะเบียนจัดตั้งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม โดยทางคณะกรรมการมัสยิดได้ให้ พันโทสุเทพ ถาวรวัฒนะ เป็นผู้ทำการขอจดทะเบียนเป็นผู้ลงนามแทนคณะกรรมการมัสยิด ผ่านสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด คณะกรรมการมัสยิดได้ทำการประชุมแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษา พร้อมทั้งแต่งตั้ง พันโทสุเทพ ถาวรวัฒนะ มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการโรงเรียน ครูมุนลิกา เลาะเด เป็นครูใหญ่ แต่งตั้งในวันที่ 21 เดือนตุลาคม 2542 พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาขึ้นมา จนกระทั่งปี 2542 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด โดยมี อ.ยูซุบ มีมูซอ เป็นประธาน คนที่ 1 อิหม่ามมูฮำหมัด แสงวิมาน เป็นประธารอำนวยการ ฮัจยีวิทยา แสงวิมาน เป็นเหรัญญิก ฮัจยีรอฟิก มะกา เป็นผู้ช่วยเหรัญญิก คุณซัยนัน ทรงศิริ เป็นฝ่ายทะเบียน คุณวินนท์ แสงมาน เป็นเลขานุการ ฮัจยีโก๊ะ ทองคำ เป็นฝ่ายสถานที่และพัสดุ ฮัจยีสมหวัง พัชรปกรณ์ ฝ่ายบริการ ฮัจยะห์ฮุมัยดะห์ แสงวิมาน ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ คุณนาซิร โกมาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ครูวันชัย เดวี ฝ่ายปกครอง คุณบุษบา วันยี ฝ่ายหารายได้พิเศษ คุณพรชุลี แสงวิมาน ฝ่ายประชุมสัมพันธ์
จนกระทั่ง ต้นปี 2545 ทางคณะกรรมการชุมชนได้มองเห็นอาคารหลังเดิมคับแคบ และมีนักเรียนเพิ่มมากขึ้น ประกอบด้วยอาคารคอนกรีต 2 ชั้น โดยชั้นล่างเปิดโล่งนี้ ไม่ได้เป็นไปตามทางศึกษาธิการจังหวัดและอำเภอต้องการ คณะกรรมการกองทุนฯ โดย ร.ต.อ.เสนีย์ ศาสนโสภา ได้ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการมัสยิดในเรื่องดังกล่าว จนคณะกรรมการมัสยิดอนุญาตให้ตัวแทนคณะกรรมการกองทุนฯซึ่งมี ร.ต.อ.เสนีย์ ศาสนโสภา เป็นประธานกองทุนเพื่อการลงทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม (Social Investment Fund : SIF) เข้ามาดำเนินการก่อสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น ด้วยงบประมาณ 3 ล้าน 4 แสนบาท ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 7 เดือน ซึงในขณะนั้นมีจำนวนนักเรียนทั้งชายและหญิงจำนวน 250 คน รักษาการแทนผู้จัดการและครูใหญ่ โดยมีอิหม่ามมูฮำหมัด แสงวิมาน พร้อมทั้งรายชื่อคณะครูในขณะนั้น มี อิหม่ามมูฮำหมัด แสงวิมาน อาจารย์มุสตอฟา นูรุ้ลเลาะห์ อาจารย์บัญชา มะหะมาน อาจารย์มูซอดดิ๊ก ศาสนอนันต์ ครูวันชัย เดวี ครูสุไลมาน เลาะเด ครูวัชรีย์ แสงวิมาน ครูรอมละห์ บุญรอด ครูสอาดะห์ ประอีกูล ครูนุสรา วรรณพิรุณ นักการ คุณอับดุลเลาะห์ อิสมาแอล
โดยในปัจจุบันนี้โรงเรียนได้พัฒนาระบบการศึกษาตามลำดับ โดยขึ้นกับสมาคมคุรุสัมพันธ์ มี ฮัจยีซาอุดี๊ ศาสนอนันต์ เป็นผู้จัดการ และมี อ.มูซอดดิ๊ก ศาสนอนันต์ เป็นครูใหญ่
ข้อมูลที่มา : หนังสืออนสรณ์ ฉลองเปิดป้ายอาคาร มัสยิดดารอสอาดะห์ ( อาคารหลังใหม่)3-4 พฤษภาคม 2546